ผมอยากจะลองถามคุณผู้ใช้งานว่า คุณได้รู้สึกผิดสังเกตไหมครับว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีพวกแอพปัญญาก่อน (เช่น คุณจะได้เดทกับดาราไหน? คุณถนัดท่าไหนมากที่สุด, ชาติที่แล้วคุณเป็นอะไร? ฯลฯ) มาโชว์บนหน้า Wall ของคุณให้รำคาญตา รำคาญใจต่อไป อีกทั้งรู้สึกว่า สถานะของเพื่อนบางคนจากเดิมที่ขี้เยี่ยวไม่ออกก็อัพสเตตัส เริ่มค่อยๆ โผล่มาเป็นพักๆ ผิดวิสัยของเพื่อนคนนั้น
ถ้าคุณรู้สึก แสดงว่า คุณได้รับผลการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ Facebook แล้วครับ นั่นก็คือ “การลดจำนวนของการแสดงผลในหน้า Feed (หรือที่เราเรียกว่า หน้า Wall นั่นแหละครับ) จากเดิม 100% เหลือเพียง 20%”
โดยปกติ ไม่ว่าคุณจะโพสหรือแชร์อะไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปแสดงบนหน้า Wall ของเพื่อนคุณที่กำลังออนไลน์อยู่ทุกคน แต่การเปลี่ยนแปลงใหม่ครั้งนี้ เมื่อคุณโพสหรือแชร์อะไรไปก็ตาม มันจะถูกส่งไปยังหน้า Wall ของเพื่อนคุณเพียง 20% เท่านั้น โดยคำนวนจากสถานะความสัมพันธ์ของเราและเพื่อนคนนั้ัน ถ้าเพื่อนของคุณเป็นแค่เพื่อนอย่างเดียว ไม่ “ถูกใจ” ไม่มาแสดงความคิดเห็นในสถานะของเรา โอกาสที่เพื่อนเหล่านี้จะไม่เห็นโพสหรือแชร์นั้นจะมีสูงตามไปด้วย (ยกเว้นเขาเป็นผู้ติดตามเราครับ)
ผลกระทบนี้ก็ลามมาถึงระบบแฟนเพจด้วย จากที่ปกติ Admin ของแฟนเพจนั้นโพสหรือแชร์อะไร คนที่ถูกใจ (ที่กำลังออนไลน์) ก็จะเห็นทั้งหมด 100% แต่ตอนนี้จะเหลือเพียงแค่ 20% เองครับ ยกตัวอย่าง แฟนเพจหนึ่งมีคนถูกใจ 100,000 คน กำลังออนไลน์อยู่ 50,000 คน จะมีคนเห็นโพสหรือแชร์นั้นแค่ 10,000 คนเท่านั้น ( 20% ของคนที่ออนไลน์อยู่ครับ)
ถ้าถามผมว่า ทำไม Facebook ถึงทำแบบนี้ ตามปัญญาที่ผมมี ผมก็ตอบได้ว่า เพราะ Facebook กำลังเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ครับ การทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของทุกธุรกิจอยู่แล้ว และการลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ก็เป็นอีกทางหนึ่งในการทำกำไรครับ เพราะหาก Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องมีมาตราการในการลดการสิ้นเปลืองของทรัพยากรด้าน Server ของ Facebook เองครับ การลดจาก 100% เป็น 20% ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทาง Facebook นำมาใช้ครับ
การสร้างรายได้อีกทางหนึ่งของ Facebook นั่นก็คือ การเพิ่มในส่วนของ บทความที่กำลังได้รับความนิยม (Trending Articles) ครับ ซึ่งมันคืออะไร? ผมจะนำมาเล่าในตอนต่อไปครับ