วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เป็นวันครบรอบวันเกิด 200 ปีของบุคคลนี้ครับ เขามีชื่อว่า Søren Kierkegaard หลายคนอาจจะสงสัยว่า เขาคือใคร ประวัติความเป็นมาอย่างไร? วันนี้มานาคอมพิวเตอร์หาคำตอบมาให้ครับ
Søren Kierkegaard คือใคร?
Søren Kierkegaard มีชื่อเต็มว่า Søren Aabye Kierkegaard (ภาษาไทยอ่านว่า เซอเรน โอบึย เคียร์เคอกอร์ ) เป็นนักปรัชญาชาวเดนมาร์กในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ปีค.ศ. 1813 ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1855 (รวมอายุได้ 42 ปี) ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โดยทั่วไปถือกันว่าเขาเป็นนักปรัชญาอัตถิภาวนิยมคนแรก สิ่งที่ Kierkegaard พูดและไม่เหมือนคำอธิบายถึงหน้าที่ของปรัชญา สำหรับนักปรัชญาในรุ่นเดียวกัน
(หมายเหตุ อัตถิภาวนิยม เป็นปรัชญาที่ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบที่ทำให้มนุษย์มีความสมบูรณ์ยิ่ง เพราะเชื่อว่ามนุษย์มิใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ องค์ประกอบที่สำคัญของลัทธินี้ก็ คือ “ความมีเสรีภาพ ความรู้สึกรับผิดชอบและการเลือกตัดสินใจ”
โดยความเป็นมาของแนวคิดนี้ สาเหตุที่เกิดก็เนื่องจากความรู้สึกสูญเสีย ตัวเองไปจากระบบสังคมปัจจุบัน การศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายความเป็นมนุษย์ด้วยการสร้างกรอบของสังคมที่ จำกัดเสรีภาพของมนุษย์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในแต่ละวันเราต้องทำหน้าที่ไปตามกรอบของสังคมที่ วางไว้จนไม่ค่อยจะมี เสรีภาพเป็นของตัวเองเลย )
ประวัติ,แนวคิดของ Søren Kierkegaard
ในด้านของแนวคิดทางปรัชญาของเคียร์เคอกอร์นั้น ถือได้ว่าเป็นสะพานที่เชื่อมกันระหว่างปรัชญาแบบเฮเกิลกับปรัชญามีแนวโน้มจะเป็นอัตถิภาวนิยม
งานของเขาส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางศาสนา เช่น ธรรมชาติของศรัทธา ความเป็นสถาบันของคริสต์ศาสนจักร และเรื่องจริยธรรมและเทววิทยาคริสเตียน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ บางคนจึงจัดให้งานของเคียร์เคอกอร์อยู่ในประเภทของอัตถิภาวนิยมคริสเตียน
คนรุ่นหลังมีความรู้สึกว่า งานของเคียร์เคอกอร์ยากแก่การติดความ เนื่องจากความไม่ปะติดปะต่อกัน เนื่องจากเขาได้ใช้นามแฝงที่ต่างกันในแต่ละช่วงการทำงาน โดยบางทีการแสดงความเห็นหรืองานเขียนของเขาไม่เหมือนกัน
งานของเคียร์เคอกอร์อาจยากแก่การตีความ เนื่องจากงานที่เขาเขียนในระยะแรกนั้นเขียนโดยใช้นามแฝงต่าง ๆ กัน และบ่อยครั้งที่งานที่เขาเขียนโดยใช้นามแฝงชื่อหนึ่งจะได้รับความเห็นหรือ ข้อวิจารณ์จากงานเขียนที่เขาใช้นามแฝงอีกชื่อหนึ่ง
แนวคิดหนึ่งของเขาที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก็คือ หน้าที่ของปรัชญาหรือหน้าที่ของมนุษย์คือ การเผชิญหน้ากับความทุกข์โศก เผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง จากการที่มนุษย์ไปยืนอยู่บนปากเหวของการเผชิญหน้า กับความโศกเศร้า ความสิ้นหวัง มนุษย์จะมีสติ และจะเริ่มรู้และเข้าใจว่าชีวิตคืออะไร ?
ผลงานที่น่าสนใจของ Søren Kierkegaard
(1841) On the Concept of Irony with Continual Reference to Socrates (Om Begrebet Ironi med stadigt Hensyn til Socrates)
(1843) Either/Or (Enten-Eller)
(1843) Two Upbuilding Discourses, 1843 (To opbyggelige Taler)
(1843) Fear and Trembling (Frygt og Bæven)
(1843) Three Upbuilding Discourses, 1843 (Tre opbyggelige Taler)
(1843) Repetition (Gjentagelsen)
(1843) Four Upbuilding Discourses, 1843 (Fire opbyggelige Taler)
(1844) Two Upbuilding Discourses, 1844 (To opbyggelige Taler)
(1844) Three Upbuilding Discourses, 1844 (Tre opbyggelige Taler)
(1844) Philosophical Fragments (Philosophiske Smuler)
(1844) The Concept of Anxiety (Begrebet Angest)
(1844) Four Upbuilding Discourses, 1844 (Fire opbyggelige Taler)
(1845) Stages on Life’s Way (Stadier paa Livets Vei)
(1846) Concluding Unscientific Postscript to Philosophical Fragments (Afsluttende uvidenskabelig Efterskrift)
(1847) Edifying Discourses in Diverse Spirits (Opbyggelige Taler i forskjellig Aand), which included Purity of Heart is to Will One Thing
(1847) Works of Love (Kjerlighedens Gjerninger)
(1848) Christian Discourses (Christelige Taler)
(1848, published 1859) The Point of View of My Work as an Author “as good as finished” (IX A 293) ((Synspunktet for min Forfatter-Virksomhed. En ligefrem Meddelelse, Rapport til Historien))
(1849) The Sickness Unto Death (Sygdommen til Døden)
(1849) Three Discourses at the Communion on Fridays ((“Ypperstepræsten” – “Tolderen” – “Synderinden”, tre Taler ved Altergangen om Fredagen))
(1850) Practice in Christianity (Indøvelse i Christendom)