วันนี้มานาคอมพิวเตอร์มีคำศัพท์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานมือถือหรือแทบเล็ตที่ใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ (Android) กับคำว่า รอมโม(Rom Mo)หรือโมรอม ว่ามันคืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรกับเรา? ควรใช้ดีไหม? วันนี้เรามาหาคำตอบกันดูนะครับ
รอมโม(Rom Mo)หรือโมรอม คืออะไร?
ก่อนอื่นที่จะอธิบายไปถึงความหมายของคำๆ นี้ ผมอยากจะท้าวความให้คุณลองนึกภาพตามก่อนนะครับ
รอม (Rom) เป็นไฟล์ตัวหนึ่งที่เราเอาไว้ติดตั้งระบบปฎิบัติการบนมือถือ หากนึกภาพง่ายๆ แอนดรอยด์บนมือถือ ก็เหมือนกับ Windows บนเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นแหละครับ ถ้าคุณซื้อมือถือแอนดรอยด์มา แกะกล่อง เปิดเครื่อง ระบบปฎิบัติการที่คุณเห็นครั้งแรกนั้นจะมาจากโรงงานของผู้ผลิตเลย
ทีนี่ สำหรับมือถือบางรุ่น เมื่อใช้งานไปสักพัก อาจจะรู้สึกว่า ระบบที่ทางผู้ผลิตเซ็ทมาให้นั้น เยอะเกินความจำเป็น ทำให้กินทรัพยากรเครื่อง บางที่ก็อยากจะปรับให้เครื่องมีการทำงานที่เร็วขึ้น แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะทางผู้ผลิตปิดกั้นความสามารถในการแก้ไขนั้นครับ
Rom โม (ย่อมาจาก Rom Modify) ก็คือ ไฟล์ที่ใช้สำหรับติดตั้งระบบปฎิบัติบนมือถือ ที่ผ่านการปรับแต่งจากผู้ใช้งานท่านอื่น ที่มิได้รับการรับรองมาจากทางผู้ผลิต เพื่อปลดปล่อยความสามารถในหลายๆ ด้านของระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ เช่น
- สามารถลบแอพบางตัวที่ติดมากับเครื่องได้
- ปรับความเร็วซีพียูให้เร็วขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานที่ลื่นไหลขึ้น
- สามารถลงแอพบางตัวที่ทางผู้ผลิตไม่อนุญาตให้ลงได้
สรุปง่ายๆ ก็คือ
- Stock rom – เหมือน ROM เดิมๆที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรมาเลย เหมือนเราลง ROM แล้วไม่มีฟังก์ชันอะไรเลย เดิมๆ
- รอมโม – เหมือน ROM ที่ลง ฟังก์ชัน โปรแกรม มาให้เรียบร้อย แล้วเราเอามาลง PC ของเราอีกที
- โมรอม – เหมือน ROM ธรรมดา เดิมๆ แล้วเราเอามาปรับแต่งอีกทีให้เข้ากับความต้องการของเรา
ข้อเสียของการลงรอมโม
ถ้าพูดถึงข้อเสียอันดับแรกก็คือ “ประกันขาด” ทันทีที่ลงรอมโมครับ เพราะทางผู้ผลิตจะรับประกันแค่เพียงการใช้งานรอมที่ติดมากับตัวเครื่อหรือรอมที่อัพเดทโดยได้รับการรับรองจากผู้ผลิตครับ แต่ถ้าคุณต้องการให้ประกันต่อ ก่อนส่งเข้าศูนย์ คุณต้องหา Stock rom ของศูนย์เพื่อรีสโตร์กลับไปเหมือนตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ ครับ
ข้อเสียที่สองก็คือ อาจจะมีผลกระทบโดยตรงกับ Hardware เนื่องจากการใช้รอมโมเช่น
- เครื่องร้อนเร็ว
- เปลืองแบตเตอรี่มากขึ้น
- เครื่องมีโอกาสแฮ้งค์หรือรีสตาร์ทได้ง่ายขึ้น
โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการปรับความเร็วของซีพียู (Overclock) หรือการที่รอมโมตัดแอพสำคัญบางตัวทิ้งเพื่อให้มีพื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้นครับ
ข้อเสียอีกด้านหนึ่งก็คือ เมื่อเครื่องลงรอมโมแล้ว อาจจะไม่สามารถใช้งานแอพบางแอพหรือเล่นเกมส์บางเกมส์ได้ หากแอพหรือเกมส์นั้นไม่อนุญาตให้เครื่องที่ผ่านการลงรอมโมและทำการ root เครื่องแล้วใช้งานได้ เช่น เกมส์ต่างๆ ของ LINE แต่ทางแก้ก็คือ คุณอาจจะต้องหาไฟล์ติดตั้งอย่าง .apk มาลงแทนการลงแอพหรือเกมส์ผ่านทาง Playstore ครับ
แล้วเราควรใช้รอมโมไหม?
ผมอยากแนะนำอย่างนี้ครับ หากเครื่องของคุณยังไม่หมดประกัน (ส่วนใหญ่มีอายุ 1 ปี) อย่าเพิ่งไปทำอะไรส่วนนี้เลยครับ หากหมดประกันแล้ว การใช้รอมโมก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ เพราะมือถือบางรุ่น ทางผู้ผลิตหยุดการอัพเดทรอมศูนย์แล้ว ทำให้คุณอาจจะไม่สามารถใช้แอพบางแอพหรือบางความสามารถได้อย่างเต็มที่ครับ
หรือกรณีที่สองถ้าคุณไม่ได้ใช้อะไรมาก แค่เล่น Social ทั่วๆไป เล่นเกมทั่วๆไป ไม่ได้เล่นหนักมาก ผมว่าไม่ต้องทำการ Unlock หรือ Root เพื่อลงรอมโมหรอกครับ