คุณผู้อ่านเคยเป็นเหมือนกับผมไหมครับ เวลาที่ผมจะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่เนี่ย รู้สึกเป็นกังวลใจไปต่างๆ นานารู้สึกว่า กลัวที่จะซื้อของผิด หรือ ซื้อของมาแล้วตกรุ่น พอโพสท์เข้าไปถามคนอื่นๆ ตามเว็ปไซต์ดังๆ (เช่น 1000ทิป) ก็มักจะได้รับคำแนะนำประมาณว่า
– จะซื้อทั้งทีซื้อแบบดีๆ ไปเลยดีกว่าครับ
– เพิ่มเงินอีกนิด จะได้สเปคดีกว่านี้นะจ้ะ
– ผมแนะนำว่า เพิ่มงบอีกนิดหน่อย (หลายพัน) เปลี่ยนจะซีพียูตัวนี้ (ที่ดูกระจอกจัง) ไปเป็นตัวโน้นดีกว่า (ดูไฮโซดี) ฯลฯ
ผมว่าเป็นคำแนะนำที่ดี แต่คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อครับ
เพราะอะไร
- เพราะกรูมีเงินอยู่แค่เนี้ย นิดหน่อยของแก ก็เยอะสำหรับฉ้านนะ
- ส่วนใหญ่ที่แนะนำ ชอบแนะนำสเปคที่สูงกว่าที่ตัวเองใช่ (จริงๆนะ)
- คุณจะต้องอยู่กับเขา (เครื่องคอมพิวเตอร์) ไปอีกนาน คนที่แนะนำเขาไม่ได้มาร่วมหัวจมท้ายกับคุณ
เพราะฉะนั้น
เลือกคอมพิวเตอร์ที่เหมาะทั้งความต้องการและเงินในกระเป๋าสตางค์คุณดีกว่าครับ
เอาล่ะ พล่ามมาพอสมควรแล้ว ผมเกิดความคิดอย่างหนี่งว่า เวลาที่มีคนแนะนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละชิ้นให้กับผมนั้นก็เป็นสเปคที่น่า สนใจดีครับ
แต่พอผ่านไปซัก 1-2 อาทิตย์ กลับกลายเป็นว่า สเปคนั้นดูไม่คุ้มกับเราซะแล้ว
เพราะว่าถ้าเรากำหนดโดยงบประมาณเป็นจำนวนเงินแล้ว จะทำให้เรามองไม่เห็นถึงความสำคัญในการให้ความสำคัญกับการซื้ออุปกรณ์แต่ละชิ้นได้ดีพอ
ยกตัวอย่างนะครับ ว่า ผมมีเงิน 15,000 บาท ผมจะให้ความสำคัญกับ CPU และก็การ์ดจอ แต่ เมนบอร์ดกับแรม นั้นยังไงก็ได้ (ถ้างบเหลือค่อยคิดถึงทีหลัง) ซึ่งผมเห็นหลายต่อหลายคนเน้นไปที่อุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ทำให้เราได้อุปกรณ์ที่ไม่ค่อยสมดุลกัน เช่น CPU เทพ แต่เมนบอร์ดกากสุดๆ หรือ VGA Card สุดหรู แต่เงินไม่พอซื้อ Power Supply ดีๆซักตัว ผลก็เล่นเกมส์ไปแล้ววูบ ซวยอีก!
ผม เลยคิดว่าอยากจะแบ่งปันแนวทางการซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่เป็นดังนี้ครับ เป็นการให้ความสำคัญกับอุปกรณ์แต่ละชิ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ ?(ถ้าแก่หน่อยก็เรียกว่าร้อยละ) วิธีนี้ (ผมคิดว่า) ดียังไงบ้าง
- ได้เห็นภาพรวมของอุปกรณ์ทั้งหมดว่า เราควรให้ความสำคัญกับส่วนไหนบ้าง
- ไม่อิงกับราคาตามท้องตลาดที่ผันผวนเร็วเหลือเกิน
- ใช้ได้ทั้งการซื้อคอมใหม่ทั้งชุดหรืออัพเกรดเฉพาะส่วนครับ
วันนี้หมดเวลาแล้วครับ เดี๋ยวมาคุยกันต่อครับ