สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันพุธที่ 25 มกราคม 2555 ครับ
ตลกไม่ออก!! เว็บมุกตลกดัง “9GAG” ซัดคนไทย “ไร้สมองแต่อยากรวย”
กลายเป็นเรื่องฮิตล่าสุดของโลกออนไลน์สำหรับ สำหรับมุกขำขันจากเว็บไซต์ต่างชาติ 9GAG ที่ทำให้เกิดเว็บไซต์สไตล์เดียวกันในฉบับภาษาไทยขึ้นมา และเลยเถิดไปจนถึงกลุ่มคนชาวไทยที่จะนำสัญลักษณ์ของเว็บดังจากต่างชาติไปผลิตเป็นเสื้อยืด จนก่อให้เกิดคำถามถึงเรื่องความเหมาะสม โดยเฉพาะในประเด็นการฉกฉวยผลประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์สาธารณะมากมาย
9GAG เว็บไซต์ตลกสัญชาติฮ่องกงโดยกลุ่มที่เรียกว่า Rollin’ Egg กลายเป็นของฮิตได้รับความนิยมขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังเปิดตัวในปี 2008 ด้วยมุกตลกที่อ้างอิงวัฒนธรรมและสังคมร่วมสมัย ผ่านการสื่อสารสไตล์โลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Rage comic (ตัวการ์ตูนล้อเลียนอารมณ์โกรธของคน), Lolcat มุกตลกประเภทที่ใช้ภาพแมวประกอบคำบรรยาย เป็นต้น กับการล้อเลียนทั้งเรื่องชีวิตประจำวัน, การเมือง, คนดัง , บันเทิง นับเป็นการเล่นมุกตลกในยุคสมัยแห่งดิจิตอลโดยแท้
ความสำเร็จของ 9GAG พิสูจน์ได้จากการติดอยู่ใน 500 อันดับแรกของเว็บไซต์ที่มีคนเขาชมมากที่สุดในโลก, เป็นอันดับ 22 ของเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส, 23 ใน มาเซโดเนีย, 29 ในไซปรัส, 32 ในเอสโตเนีย, 40 ในฟิลิปปินส์ เป็นต้น แม้แต่มุก “ธนูปักเข่า” อันมีที่มาจากเกม The Elder Scrolls V: Skyrim ที่เล่นกันจนเฝือไปหมด ก็ได้รับความนิยมแพร่หลายขึ้นมาจาก 9GAG เช่นเดียวกัน
ความสำเร็จของ 9GAG ยังก่อให้เกิดกระแสการก่อตั้งเว็บไซต์ประเภทเดียวกันของชาวไทยขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น 9GAG in Thai หรือ Naikak.com ทั้งเพื่อเผยแพร่มุกตลกสไตล์ 9GAG ทั้งด้วยการแปลมุกต่าง ๆ เป็นภาษาไทย หรือเป็นแหล่งเผยแพร่มุกใหม่สไตล์เดียวกัน แต่มาจากมันสมองของคนไทยเอง
ซึ่งการแปลมุกตลกจากบรรดาเว็บไซต์ 9GAG ของคนไทยนี่เอง ที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย ทั้งประเด็นเรื่องสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในมุกต่าง ๆ ซึ่งบางส่วนก็ยังมองว่าการหยิบมุกจาก 9GAG มาดัดแปลงเป็นภาษาไทยเป็นเรื่องทำได้ โดยเฉพาะหากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุผลทางธุรกิจหาเงินเข้ากระเป๋า หรือเรื่องที่ว่ามุก 9GAG ภาคแปลภาษาไทยส่วนใหญ่นั้นแทบจะไม่หลงเหลือความฮาของต้นฉบับอยู่เลย
อย่างไรก็ตามยังมีความเห็นว่าเว็บไซต์ลอกเลียน 9GAG ก็ไม่ได้เป็นเรื่องย่ำแย่เสียทีเดียว เพราะแม้จะมีการหยิบมุกตลกของต่างชาติมาเล่าใหม่ แต่ในเวลาเดียวกันยังเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนมุกตลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับสังคมและชีวิตประจำวันของไทยเอง อย่างที่ไม่สามารถหาได้ในเว็บไซต์ 9GAG อย่างครั้งหนึ่งที่มีเว็บไซต์แห่งหนึ่งหยิบมุกตลกล้อเลียนความเก่งกาจแบบเกินคน (ในจอภาพยนตร์) ของดารานักบู๊รุ่นใหญ่ ชัค นอริส ที่เล่นกันในหมู่ชุมชนออนไลน์ของต่างชาติ มาดัดแปลงเพื่อล้อเลียนความเท่ห์ของ “โจ๊ก โซคูล” ที่ทำให้ใคร ๆ ก็เรียกร็อคเกอร์สัญชาติไทยคนนี้ว่า “บร๊ะเจ้าโจ๊ก” กันทั้งบ้านทั้งเมืองมาแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นการ “ลอกเลียนดัดแปลง” มุกตลกที่ทำออกมาได้เข้าท่าเข้าทางไม่น้อยเลยทีเดียว
ประเด็นเรื่องการลอกมุก เลียนแบบแนวคิดของ เว็บไซต์ ยังไม่คลี่คลาย ก็กลับมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นมาอีก เมื่อปรากฏว่ากลุ่มผู้มีส่วนร่วมกับ 9GAG in Thai ได้ริเริ่มไอเดียผลิตเสื้อยืดพิมพ์เครื่องหมายของเวบไซต์ 9GAG ภายใต้ชื่อ 9GAG in Thai Store ขึ้นมา จนเป็นกระแสวิจารณ์อย่างหนักทั้งในไทยเอง และดังไปถึงชาวต่างชาติที่เข้า 9GAG อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในข้อหาเรื่องความหิวเงิน เห็นแก่ได้ แต่ไม่มีปัญหาจะคิดสร้างสรรค์อะไรที่เป็นของตัวเอง หลายคนนำเรื่องนี้มาเล่นเป็นมุกตลก ที่คนไทยเองดูจะตลกไม่ออกซักเท่าไหร่ แม้แต่ผู้เกี่ยวข้องกับ Naikak.com ยังต้องออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการผลิตเสื้อยืดครั้งนี้
ไม่ว่าใครจะเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวก็ตาม แต่มันทำให้เกิดเรื่องขายหน้าระดับโลกขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับความ “ขี้ลอก” ของคนไทย และคงจะสะท้อนความจริงที่ว่า โลกออนไลน์นั้นแม้มีของฟรีอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถจับเสือมือเปล่าหยิบมาหาผลกำไรได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
Facebook, Myspace และ Twitter ผนึกกำลังต้าน Google
กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับเครือข่ายสังคมรายใหญ่ทั้ง Facebook, Twitter และ MySpace ที่ออกมาต่อต้านการปรับปรุงผลการค้นหาข้อมูลครั้งใหม่ของ Google อย่างจริงจัง โดยแม้การปรับปรุงครั้งนี้จะยังจำกัดอยู่ที่ในสหรัฐฯ แต่ทั้งหมดถือเป็นก้าวสำคัญที่มีส่วนทำลายภาพลักษณ์ Google ที่มีมาตลอดแบบน่าใจหาย
ต้นเหตุของการต่อต้านครั้งนี้มาจากการปรับปรุงระบบจัดอันดับผลการค้นหาหรือ rankings ในเว็บไซต์ Google ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าเนื้อหาในเครือข่ายสังคม Google+ ทั้งรูป วิดีโอ ความเห็น และลิงก์ล้วนถูกนำมาแสดงไว้แทนที่จะเป็นเนื้อหาจากเครือข่ายสังคมที่ได้รับการยอมรับมากกว่าอย่าง Twitter และ Facebook
ทวิตเตอร์เป็นรายแรกที่ออกมาแสดงความไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงที่ Google ให้ชื่อเรียกว่า Search Plus Your World อย่างชัดเจน โดยมองว่าการกระทำเช่นนี้ของ Google นั้นเข้าข่ายปิดกั้นการแข่งขันและเจตนาผูกขาดการค้าในตลาดออนไลน์ เพราะจงใจใช้อิทธิพลในตลาดที่ตัวเองมี เป็นทางลัดให้บริการเครือข่ายของ Google เติบโตอย่างไม่เหมาะสม
ที่ว่าไม่เหมาะสมนั้นเป็นเพราะ Search Plus Your World จะทำให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯเห็นข้อมูลใน Google+ แม้ข้อมูลในเครือข่ายสังคมอื่นจะมีคุณภาพมากกว่าและอัปเดทใหม่กว่า จุดนี้ Google อ้างว่าเป็นเพราะเครือข่ายสังคมรายอื่นเลือกจะไม่ต่อสัญญากับ Google ในการร่วมมือให้ข้อมูลในเครือข่ายสามารถปรากฏในผลการค้นหา ขณะที่เครือข่ายสังคมหลายค่ายตราหน้าว่า Google กำลังทำตัวผิดจากปรัญชาบริษัท Don’t Be Evil ด้วยท่าทีหวังผลประโยชน์ตนจนไม่คำนึงว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับข้อมูลที่ดีที่สุด
แม้จะมีการเรียกร้องให้กรมการค้าสหรัฐฯหรือ Federal Trade Commission ตรวจสอบ Google โดยละเอียด และสงครามน้ำลายที่โต้ตอบไปมาเกี่ยวกับการคัดค้าน Search Plus Your World ของ Google แต่วิศวกรของ Facebook, Twitter และ Myspace ก็ไม่สมใจจนเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งหมดได้ร่วมมือเปิดให้ชาวออนไลน์ติดตั้งโปรแกรมเสริมซึ่งทั้ง 3 ให้ชื่อว่า Don’t Be Evil bookmarklet โดยเปิดให้ชาวออนไลน์ดึงไปติดตั้งในเว็บเบราวเซอร์ที่เว็บไซต์ Focusontheuser.org เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลการค้นหาปกติ เรียกว่าเป็นโปรแกรมที่หลบการทำงาน Search Plus Your World แบบเบ็ดเสร็จ
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า โปรแกรมเสริมนี้ใช้เวลาสร้างในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี Blake Ross ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และ Tom Occhino และ Marshall Roch วิศวกรซอฟต์แวร์ของ Facebook เป็นผู้นำทีม แต่ไม่แน่ชัดว่าทั้งหมดคือผู้ที่ตั้งชื่อ Don’t Be Evil สุดแสบให้กับโปรแกรมนี้หรือไม่ ซึ่งแม้แต่เด็กมัธยมยังรู้ว่านี่คือการ “หลอกด่า” Google อย่างชัดเจน
ไม่เพียงการเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯดึงโปรแกรมเสริม Don’t Be Evil ไปใช้งาน ในเว็บไซต์ Focus on the User ยังอธิบายว่าหากผู้ใช้ค้นหาคำว่า “cooking” บน Google ในวันนี้ จะพบกับลิงก์ที่เกี่ยวกับสุดยอดพ่อครัว Jamie Oliver แต่ลิงก์ดังกล่าวไม่ใช่ลิงก์โปรไฟล์ทวิตเตอร์ของเชฟ Jamie แต่เป็นโปรไฟล์ในบริการ Google+ ซึ่งมีการอัปเดทครั้งล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่ Twitter ของเชฟ Jamie นั้นอัปเดทเร็วกว่า ทั้งหมดนี้แสดงถึงความไม่เหมาะสมในการจัดอันดับหรือ ranking ของ Google จนทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับข้อมูลที่ดีพอ
ในขณะที่ Google ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการคลอดโปรแกรมเสริม Don’t Be Evil ผู้บริหาร Facebook อย่าง Ross ซึ่งเป็นมีดีกรีเป็น 1 ใน 3 ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บเบราว์เซอร์ Firefox กับมอซิลานั้นโพสต์เผยแพร่โปรแกรมเสริม Don’t Be Evil นี้ทางทวิตเตอร์และ Facebook ของตัวเองอย่างเต็มที่
สำหรับคนไทย Search Plus Your World จะไม่มีผลใดๆกับการค้นหาข้อมูลในเมืองไทย แต่สำหรับในสหรัฐฯ ผู้สนใจติดตั้งโปรแกรมเสริมนี้สามารถติดตามการทำงานและวิธีใช้ได้จากเว็บไซต์ ซึ่งจะเปิดเผยชุดคำสั่งเพื่อเปิดให้นักพัฒนาร่วมกันสร้างสรรค์ความสามารถเพิ่มเติมต่อโดยเสรี
แผง Solar+OLED ใสสว่าง “รักษ์โลก”
เชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายๆ ท่าน คงจะเคยฝันว่า สักวันหนึ่งเราจะได้ใช้เทคโนโลยีเซลล์สุริยะ (Solar cell) ที่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าซิ่งได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ตลอดจนสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อการใช้งานในบ้านทั้งหลังโดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟเลย แต่อย่างที่ทราบดีกว่า ปัญหาคือ เทคโนโลยีเซลล์สุริยะยังต้องได้รับการพัฒนากันอีกมาก แถมยังไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งทั้งสำหรับบ้าน และรถยนต์อีกด้วย
ล่าสุด BASF และ Philips ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นการรวมเอา OLED ที่สามารถให้แสงสว่างได้เข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ที่มีความโปร่งใสสามารถมองเห็นทะลุได้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายในการทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถยนต์สามารถมองเห็นโลกภายนอกผ่านหลังคาที่มีความใสได้ ในขณะเดียวกันมันยังสามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย และเมื่อในยามค่ำคืน แผง Solar OLED จะสามารถทำหน้าที่ให้แสงสว่างได้นั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีนี้น่าจะเหมาะกับหน้าต่างกระจกที่ใช้ตามบ้านด้วย หรือจะใช้กับห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือที่ต้องการแสงสว่างมากๆ ก็ได้เช่นกัน โดยจะผลิตกระแสไฟฟ้าในระหว่างวัน และให้แสงสว่างในห้องได้ในยามค่ำคืน
สำหรับแผง OLED ที่ใช้ในงานนี้จะมีความหนาเพียง 1.8 มิลลิเมตร โดยสามารถให้แสงสว่างที่นวลตาได้ตลอดทั้งพื้นผิว ซึ่งเมื่อนำมาประกบเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ คุณก็จะได้ทั้งพลังงาน และแสงสว่างบนอุปกรณ์ชนิดเดียว ในขณะที่ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพภายนอกอีกต่อไป อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับการใช้เป็นหลังคา sunroof ของรถยนต์ไฟฟ้า Smart Forvision concept EV ของ Daimler ดังรูป
ปลาทอง “ของเล่น” ว่ายน้ำได้เหมือนจริง !!!
หลายคนชอบเลี้ยงปลาทองใส่โหลแก้วเล็กๆ บนโต๊ะทำงาน เพื่อว่า เวลาคิดอะไรไม่ออกจะได้มองดูมันว่ายไปมา เพลินตา คลายเครียดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ภาระที่ตามมาก็คือ คุณจะต้องคอยให้อาหาร และเปลี่ยนน้ำมันด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณผู้อ่านเป็นเจ้าของ “ปลาทองไฟฟ้าในโหลแก้ว” ที่ไม่ต้องคอยให้อาหาร แต่เลี้ยงด้วยแบตเตอรี่แทน!!!
แก็ดเจ็ต (Gadget) ที่นำมาฝากคุณผู้อ่านนี้ อาจจะเป็นของเล่นทีถูกใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงปลาทอง แต่ไม่แน่ใจในความรับผิดชอบของตนเอง เพราะด้วยปลาทอง “ของเล่น” ที่อยู่ในโหลแก้วนี้ คุณจะไม่ต้องคอยกังวลเรื่องให้อาหาร หรือเปลี่ยนน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากมันไม่ต้องการอาหาร ขอแค่แบตเตอรี่ AA 3 ก้อนก็พอ
ซึ่งเพียงแค่นี้ คุณจะได้ปลาทองที่สามารถว่ายไปมาในโหลได้อย่างไม่รูจักเหน็ดเหนื่อย (จนกว่าแบตฯจะหมด) แถมในยามค่ำคืนยังมีหลอด LED ที่ให้แสงสว่างสวยงามไปพร้อมๆ กับการว่ายน้ำอย่างมีความสุขของเจ้าปลาทองอีกด้วย เหมาะมากสำหรับเป็นของขวัญให้กับผู้ที่อยากเลี่ยงปลาทองแต่ไม่ค่อยมีเวลาใส่ใจมากนัก สนนราคาอยู่ที่ 20 เหรียญฯ หรือประมาณ 600 บาทครับ
LG เอาใจสาวกเกาหลี ซื้อ Optimus รับ Super Junior Gift Set
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดโปรโมชันพิเศษเอาใจสาวกเกาหลี เมื่อซื้อมือถือในตระกูล LG Optimus Series ในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2012 รับฟรีทันที Super Junior Gift Set รุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน พร้อมการเผยโฉมครั้งแรกกับสมาร์ทโฟน PRADA phone by LG 3.0 ให้ได้เป็นเจ้าของก่อนใคร ระหว่างวันที่ 26-29 มกราคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เมื่อซื้อ LG Optimus Series ที่ร่วมรายการภายในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2012 ได้แก่ LG Optimus SOL, LG Optimus HUB 850 MHz และ 900 MHz, LG Optimus NET และ LG Optimus NET Dual Sim รับฟรีทันที Super Junior Gift Set รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ให้สาวกได้สะสมทั้งถุง SJ สุดเก๋, VCD มิวสิควิดีโอและ โฟโต้บุ๊ค พร้อมโปรโมชั่นผ่อนสบาย 0% นานถึง 6 เดือน และพิเศษสำหรับลูกค้า 100 ท่านแรก รับซีดีเพลงพร้อมลายเซ็นจาก Super Junior
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่แอลจีเตรียมเผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด PRADA phone by LG 3.0 ที่ร่วมกับ ปราด้า แบรนด์ชื่อดังระดับโลก ด้วยการออกแบบสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์เรียบหรูแบบมินิมัลลิสต์ โดดเด่นด้วยลายเส้นขอบโครเมียมตัดกับลายหนังซาฟเฟียโน (Saffiano) สุดคลาสสิคอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ปราด้า ตัวเครื่องเพรียวบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร พร้อม Prada UI และเหนือกว่าด้วยนวัตกรรมหน้าจอ NOVA Plus ขนาด 4.3 นิ้ว ที่ให้ความสว่างสูงที่สุดในโลกถึง 800-nit
พร้อมประสิทธิภาพการประมวลผลอันทรงพลังแบบ Tri Dual 1 GHz บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 จิงเจอร์เบรด สามารถรองรับการอัพเกรดเป็น 4 ไอศครีม แซนด์วิชได้ในอนาคต หน่วยความจำตัวเครื่อง 8GB กล้องความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล และ Dual Band WiFi เพื่อการท่องเว็บอย่างลื่นไหลไม่สะดุด ในราคา 19,900 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือสามารถซื้อ PRADA Special Set (มือถือปราด้าพร้อมบลูทูธปราด้า) ในราคา 24,900 บาท พร้อมลุ้นรับบลูทูธปราด้า มูลค่า 5,000 บาทฟรี พิเศษเฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น
ผู้สนใจสามารถสัมผัส LG Smart Phone หลากรุ่น พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2012 ระหว่างวันที่ 26-29 มกราคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th