สรุปข่าวไอทีประจำวัน (13 ธันวาคม 2554)

สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2554 ครับ

 

ฟันธง “iPad 3” มาแน่เดือนก.พ. !!!’

นักวิเคราะห์บริษัท Citi ฟันธงว่า Apple กำลังเตรียมเปิดตัว Tablet ตระกูล iPad แห่งอนาคตหรือที่เรียกกันมากว่า iPad 3 เพื่อแจ้งเกิดต่อสายตาสาธารณชนในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า

รายงานจากแอลเอไทมส์ ตีพิมพ์ความเห็นของ Richard Gardner ซึ่งระบุในงานวิจัยว่า iPad 3 จะมาพร้อมหน้าจอ retina display ความละเอียดสูงเช่นเดียวกับหน้าจอ iPhone ทั้ง iPhone 4 และ iPhone 4S ทำให้หน้าจอของ iPad 3  มีความละเอียดหน้าจอสูงกว่า iPad 2 เกือบเท่าตัว

ข้อมูลเหล่านี้การ์ดเนอร์ระบุว่าได้รับมาจากแหล่งข่าวหลายแห่ง ซึ่งล้วนพูดตรงกันว่า iPad 3 มีกำหนดเปิดตัวต่อสาธารณชนช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่แรงกว่า iPad 2 รุ่นก่อนหน้านี้

iPad รุ่นแรกนั้นถูกเปิดตัวในเดือนเมษายนปี 2010 อีก 11 เดือนถัดมา iPad เวอร์ชัน 2 ถูกเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2011 เท่ากับหาก iPad 3 จะถูกเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนับช่วงต่างได้ 11 เดือนพอดี

การ์ด เนอร์ยังประเมินว่า ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ iPad จะสามารถทำยอดจำหน่ายได้ราว 12-13 ล้านเครื่อง ซึ่ง iPad จะยังเป็น Tablet ที่ขายได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับTablet จาก Amazon อย่าง “Kindle Fire” ที่คาดว่าจะจำหน่ายได้ราว 3.9 ล้านเครื่องในปีนี้ ตอกย้ำตำแหน่งแชมป์ว่า iPad คือเจ้าตลาด Tablet ที่ครองส่วนแบ่งทั่วโลกมากกว่า 65% ในขณะนี้

 

โฉมหน้าตลาด “Smart Phone” ปีหน้า !!!

การ์เนอร์ บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำของโลก  ระบุว่า โทรศัพท์ Smart Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ “Android” จากค่าย Google ที่มีสัญลักษณ์เป็นหุ่นยนต์สีเขียวตัวกลมๆน่ารัก มีสัดส่วนในตลาด Smart Phone ระดับโลกสูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยมีสัดส่วนในตลาดโลกถึง 52%  รองลงมาได้แก่ ระบบปฏิบัติการ “Symbian” จากค่าย Nokia ที่ครองส่วนแบ่งในตลาด 16.9% ส่วน “iOS” จากค่าย Apple ครองส่วนแบ่งในตลาด 15%

เหตุผลหลักประการหนึ่งคือ “Android” เป็นระบบปฏิบัติการ (โอเอส) แบบโอเพ่นซอร์ส ที่เปิดให้นักพัฒนาโปรแกรมนำไปพัฒนาต่อยอดโดยไม่มีการปิดกั้น นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งาน ทำให้ผู้ผลิต Smart Phone นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลากรุ่น หลายราคา ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับสูง จึงเป็นเหตุให้เจ้าหุ่นยนต์สีเขียวครองตลาด Smart Phone อยู่ในปัจจุบัน

Google ก็พัฒนาโอเอส “Android” รุ่นใหม่ๆออกมาโดยตลอด ล่าสุดที่มีการเปิดตัวออกสู่ตลาดได้แก่ “Android” เวอร์ชั่น “Ice Cream Sandwich” หรือ “Android 4.0” ที่มีการยกระดับความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆบนโทรศัพท์มือถือให้สูงขึ้น เมื่อเทียบกับ Android 2.3.3 ที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออยู่ในปัจจุบัน (แม้ Google จะผลิต Android 3.0 ออกมา แต่โอเอสตัวนี้ออกแบบมาเพื่อผลิตภัณฑ์ตระกูล Tablet)

คาดกันว่า  ความสามารถใหม่ๆของโทรศัพท์มือถือที่ใช้โอเอส “Android” ที่จะออกสู่ตลาดในปี 2555 จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนของการสั่งการด้วยเสียง หรือ ว็อยซ์ คอมมานด์ ที่เป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานสำหรับ “Android” ตั้งแต่เวอร์ชั่น 2.0 แล้ว แต่ด้วยความไม่ลงตัวของผู้ผลิตโทรศัพท์และผู้ผลิตแอปลิเคชั่น ทำให้ฟังก์ชั่นนี้ไม่เป็นที่นิยมกันในโทรศัพท์ “Android” ทั้งหลาย

Google มีแผนที่จะพัฒนาให้โทรศัพท์มือถือที่รันโอเอส “Android” รับคำสั่งจากเสียงพูดในการค้นหาสถานที่ผ่านบริการอื่นๆของGoogle เช่น Google Translate ที่ใช้สำหรับแปลภาษากว่า 50 ภาษาทั่วโลก (แต่อย่าคาดหวังกับประสิทธิภาพในการแปลมากนัก) หรือจะเป็นโปรแกรม การแปลงหน่วยต่างๆ ของ Google เป็นต้น

นอกจากนั้น  ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพซอฟท์แวร์ควบคุมกล้องถ่ายรูปให้ดียิ่งขึ้น เช่น ลดเวลารอให้ชัตเตอร์กล้องทำงาน ปรับระบบโฟกัสภาพวีดีโอสำหรับมือถือ หรือ Tablet ที่มีระบบ Video Call เพื่อรองรับการมาถึงของระบบสื่อสารไร้สาย 4G ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นการสนทนาผ่านวีดีโอได้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้งการพัฒนาให้โอเอสและโทรศัพท์รองรับการทำงานฟังก์ชั่นอื่นๆที่มีความหลาก หลายมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมจุดเด่นของ Smart Phone ที่ใช้โอเอส “Android” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะมีการพัฒนาให้ Smart Phone ที่รันโอเอสหุ่นยนต์สีเขียวมีความยืดหยุ่นในการทำงานเกี่ยวกับการตลาดออ นไลน์มากยิ่งขึ้น

โดยเป็นไปตามกลไกตลาดในส่วนของการจจำหน่ายสินค้าออ นไลน์ที่มีการขยายตัว และการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดสำคัญๆเช่น สหรัฐอเมริกา ก็พบว่าผู้บริโภคใช้โทรศัพท์มือถือในการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น นั่นเอง

เจ้าของ Smart Phone รุ่นใหม่ที่รันบนโอเอส “Android” ที่จะออกมาในปีหน้าจะได้เพลิดเพลินกับการเล่นแอปลิเคชั่นที่ลื่นไหลมากยิ่ง ขึ้น จากการพัฒนาในส่วนของ CPU และ GPU ที่นำมาใช้กับ Smart Phone รุ่นใหม่ๆ

ขณะเดียวกัน  ค่าย Apple ก็ไม่ยอมแพ้มีแผนการพัฒนาโอเอส ตระกูล iOS ให้เชื่อมต่อกับ OS ตระกูล OS X ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ตระกูลแมค ได้อย่างไม่มีการสะดุด โดยมีข่าวว่าจะใช้ระบบ “digital hand shake” ที่ออกแบบมาเพื่อให้โอเอสในค่าย Apple ทำความรู้จักกันได้สะดวกเพียงนำกล้องวีดีโอของแมคบุ๊ค และ iPhone มาจ่อตรงกัน ระบบจะทำการตรวจสอบสารเคลือบพิเศษบนเลนส์กล้องและเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติ ทำให้การส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันทำได้อย่างสะดวกสุดๆ

แต่ที่สำคัญผู้บริโภคที่ต้องการซื้อ Smart Phone สักเครื่อง ต้องคำนึงถึงการใช้งานของตนเองเป็นหลัก ก่อนตัดสินใจ เพราะแม้จะมีรุ่นราคาถูกไม่เกิน 5 พันบาทออกจำหน่ายในตลาดกันแล้ว แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าของโทรศัพท์ฉลาดๆที่มีราคาแพงกว่า ก็เป็นเครื่องล่อใจที่ผู้ผลิตโทรศัพท์ใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้ผลดีมา โดยตลอด

 

ช่อง “การ์ตูน” ฮิตโกยเรทติ้งทีวีดาวเทียม !!!

ปรากฏการณ์แห่ผุดช่อง “ทีวีดาวเทียม” ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และนับรวมได้กว่า 100 ช่องในปัจจุบัน พบว่าคอนเทนท์หลักๆ ที่โกยเรทติ้งผู้ชมแบบติดอันดับท็อปไฟว์และไร้คู่แข่ง คงต้องยกให้ช่อง “การ์ตูน” ที่วันนี้สนามแข่งขันมีเพียง 2 ช่องหลัก คือ “การ์ตูน คลับ แชนแนล” และ “แก๊งการ์ตูน”

ความนิยมช่องทีวีดาวเทียมการ์ตูนในวันนี้ ..ด้วยเป็นสื่อที่รับชมได้ 24 ชั่วโมง ต่างจากฟรีทีวีที่ต้องรอชมในช่วงเสาร์-อาทิตย์ จึงอยู่ในอาการไม่จุใจคนคอการ์ตูน อีกทั้งเนื้อหาของการ์ตูนในปัจจุบันมีความหลากหลายที่รับชมได้ทั้งเด็กและ วัยรุ่น  ซึ่งลิขสิทธิ์การ์ตูนฮิตสัญชาติญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือของทั้ง 2 ช่องทีวีดาวเทียม …รายใหม่ที่คิดจะเปิดช่องการ์ตูนจึงทำได้ไม่ง่ายนัก

เมื่อมั่นใจในคอนเทนท์ กลยุทธ์ของทั้ง 2 ช่องจึงมุ่งขยายฐานผู้ชมให้เข้าถึงทุกแพลตฟอร์ม “ธนัท ตันอนุชิตติกุล” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท การ์ตูนมีเดีย จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง “การ์ตูน คลับ แชนแนล” บอกว่าการบริหารช่องการ์ตูน คลับเป็นปีที่ 3 ได้ขยายฐานผู้ชมครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในครัวเรือนที่ติดตั้งจานรับสัญญาณดาว เทียมระบบซีแบนด์ (จานดำ) และเคยู แบนด์  รวมทั้งเคเบิลทีวีท้องถิ่น โดยทุกช่องทางมีฐานผู้ชมกว่า 30 ล้านคนในขณะนี้

ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ช่องการ์ตูนคลับได้ทำสัญญาในรูปแบบ  Exclusive Channel  กับจานเคยู แบนด์ 2 ราย คือ ดีทีวี และพีเอสไอ เพื่อให้แพร่ภาพคอนเทนท์การ์ตูน คือช่องการ์ตูนคลับเพียงช่องเดียว และจากการเปิดตัวจาน “รุ่นประหยัด” เจาะตลาดแมส ในราคาชุดละ 990 บาท  ของทั้ง 2 ราย คือจานดีทีวี รุ่นดีคุ้ม และพีเอสไอ โอเค โดยวางเป้าหมายยอดขายในปี 2555 ไว้ที่  2 ล้านจาน  นั่นเท่ากับว่าช่องการ์ตูนคลับ จะมีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านคน โดยที่คู่แข่งแทรกเข้ามาไม่ได้ในช่องทางนี้

“ตัวเลขผู้ชม ที่เพิ่มขึ้นจากจานเคยูแบนด์ จะทำให้ช่องการ์ตูนคลับ ทิ้งห่างคู่แข่งและยังครองเรทติ้งผู้นำได้ต่อไป หลังจากเป็นช่องผู้นำในทุกกลุ่มอายุมาเป็นเวลา 9 เดือนต่อเนื่องนับตั้งแต่ มี.ค.-พ.ย. จากการสำรวจของเอจีบี นีลเส็น” ธนัท กล่าวและว่าทีวีดาวเทียมช่องการ์ตูนเป็นคอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมจากทุกวัย และมีเรทติ้งติดอันดับท็อปไฟว์จากการสำรวจผู้ชมทุกครั้ง

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.