สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554 ครับ
ยอดโหลดแอพฯ Android ทะลุหมื่นล้าน !!!
ต้องยอมรับว่า คู่แข่งตลาดแอพฯ ที่ชับเคี่ยวกันมาตลอด และค่อนข้างชัดเจนเห็นจะหนีไม่พ้น Android Market ของ Google และ iTunes App Store ของ Apple แม้ว่าความจริงจะมีแอพสโตร์ของ Amazon และ B&N ด้วยก็ตาม แต่ร้านเหล่านี้ก็ยังคงเป็นตัวผลักดันแบรนด์ของ Android ให้แข็งแกร่งด้วยเช่นเดียวกัน
อ้างถึงตัวเลขล่าสุดของ Android Market ที่แม้ Google จะไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรมากนัก แต่ปรากฎว่า ยาดดาวน์โหลดแอพฯ ทะลุ “หมื่นล้าน” ดาวน์โหลดตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว ซึ่งฟังดูอาจจะไม่น่าตื่นเต้นมากนัก โดยเฉพาะเทียบกับ iTunes ของ Apple แต่ประเด็นที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็คือ ยอดดาวน์โหลดของ Android Market มีอัตราการเติบโตแบบพุ่งพรวด โดยเฉลี่ยตลอดสี่เดือนที่ผ่านมามีอัตราการดาวน์โหลดสูงถึง 1 พันล้านครั้งต่อเดือนเลยทีเดียว!!!
ทั้งนี้หากมองย้อนกลับไป Android Market มียอดการดาวน์โหลดแตะที่ 1 พันล้านครั้งในเดือนกรกฎาคม 2010 หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่ในปี 2008 และผ่านที่ 6 พันล้านครั้งต่อเดือนในเดือนกรกฎาคม 2011 ที่ผ่านมา และด้วยอัตราการดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ในเดือนพฤศจิกายน ยอดดาวน์โหลดแอพฯ ทะลุหมื่นล้านครั้งไปเรียบร้อยแล้ว
ผลจากความสำเร็จดังกล่าว Google ฉลองด้วยการให้รางวัลกับลูกค้า Android โดยทางบริษัทจะเลือกแอพฯ ที่ต้องซื้อบางตัว เพื่อเปิดจำหน่ายในราคาพิเศษแค่ 10 เซ็นต์ โดยแอพฯที่ถูกคัดเลือกจะถูกโปรโมทในแต่ละวันตลอด 10 วันนับจากนี้ไป งานนี้คุณผู้อ่านที่ใช้แพลตฟอร์ม Android คงไม่พลาดนะครับ
Microsoft เผยแผนลับ Windows App Store !!!
หลังจากผ่านมาหลายปีที่ Microsoft จำหน่ายซอฟต์แวร์ของตนเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นเรือธงอย่างระบบปฏิบัติการ Windows และซอฟต์แวร์ Office ล่าสุดทางบริษัทยมีแผนการที่จะเข้าสู่ธุรกิจ App Store แล้ว ทั้งนี้การเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวจะยังไม่เริ่มต้นจนกว่าทางบริษัทจะเปิดตัว Windows 8 ซึ่งคาดว่าจะเป็นปี 2012
สำหรับแผนการในเบื้องต้นของ Windows App Store ทาง Microsoft ต้องการดึงนักพัฒนาให้หันมาสนใจทำแอพฯให้กับทางร้าน โดยบริษัทได้เปิดเผยเกี่ยวกับโครงสร้างของราคาแอพฯ ที่น่าจะทำให้คู่แข่งต้องปวดหัวพอสมควร ทั้งนี้ Microsoft จะขอส่วนแบ่งแค่ 30% ของแอพฯที่ขายในร้าน ซึ่ง Windows App Store จะอยู่ใน Windows 8 (ไอคอน Store บนอินเตอร์เฟซ Metro UI ของ Windows 8 ) เช่นเดียวกับ Apple
นอกจากโครงสร้างการแบ่งรายได้ในลักษณะดังกล่าวแล้ว ในกรณีที่ยอดขายแอพฯ สามารถทำยอดได้มากกว่า 25,000 เหรียญฯ (ประมาณ 750,000 บาท) ขึ้นไป ทางบริษัทจะคิดส่วนแบ่งลดลงเหลือเพียง 20% เท่านั้น ซึ่ง Microsoft คาดว่า ด้วยรูปแบบการแบ่งรายได้ดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักพัฒนาให้หันมาทำแอพฯ บนแพลตฟอร์ม Windows กันมากขึ้น สำหรับราคาแอพฯในร้านจะเริ่มตั้งแต่ 1.49 – 999.99 เหรียญฯ (ประมาณ 45 – 30,000 บาท) Windows App Store จะเปิดให้บริการทันทีตั้งแต่ Windows 8 เวอร์ชันทดสอบสำหรับผู้ใช้เปิดตัวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2012
Windows App Store จะให้บริการแอพฯ ทั้งฟรี และจ่ายตังค์ รวมถึงการให้บริการแอพฯเวอร์ชันทดลอง และระบบการชำระเงินจากภายในแอพฯ (in-app payment) ธุรกิจต่างๆ จะยังคงสามารถพัฒนาแอพฯ สำหรับใช้ภายในเฉพาะพนักงาน โดยใช้กลไกการแจกจ่ายแอพฯ ของทาง Windows App Store ได้อีกด้วย
นอกจาก การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับส่วนแบ่งในการขายแอพฯ ที่น่าจะทำให้นักพัฒนาได้ตาโตกันแล้ว ทาง Microsoft ยังเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกด้วย อาทิ คุณผู้อ่านอาจจะไม่ทราบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ Windows PC ทั่วโลก (ทุกเวอร์ชัน) มากกว่า 1.25 พันล้านเครื่อง โดยในจำนวนนี้ 500 ล้านรายเป็น Windows 7 ที่วางจำหน่ายไปแค่ 2 ปี นั่นหมายความว่า โอกาสของตลาดแอพฯ ที่จะเกิดขึ้นกับ Windows 8 ก็จะมีสูงขึ้นตาไปด้วย แต่นั่นหมายถึง การที่ผู้ใช้ Windows ปัจจุบันจะอัพเกรดไปใช้ Windows 8 ด้วยนะ – -“
“iPhone Case” กันแดดฝน ทนหนาว ชาร์จได้ !!!
มีของเล่นเจ๋งๆ มาให้ชาวสาวก iPhone กันอีกแล้ว ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่นิยมกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการปั่นจักรยานหรือเดินป่าหรือต้องอยู่นอกสถานที่เป็นเวลานานๆ แล้วต้องการ iPhone คู่ใจติดตัวไปได้ตลอดเวลา การมีเคสที่แข็งแรงคอยปกป้องจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี เช่นเดียวกับเคสจาก BioLogic นี้
Biologic ReeCharge เคสที่ช่วยปกป้องบอดี้ของ iPhone ในดีไซน์เท่ๆ โดยที่ยังทัชหน้าจอได้ตามปกติ ไม่ต้องถอดเข้าออกจากเคสเพื่อใช้งานให้เสียเวลา ผลิตด้วยพลาสติกแข็งที่สามารถป้องกันได้ทั้งแรงกระแทกและในสภาพอากาศที่เลว ร้าย ไม่ว่าจะเป็นฝนตก แดดออกหรือในอากาศที่หนาวเย็นก็ตาม ตัวเคสบรรจุแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ 1400mAh สำหรับเป็นแบตฯ เสริมในการชาร์จไฟ เพื่อให้ใช้งานในขณะทำกิจกรรมนอกสถานที่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตัวเคส ReeCharge นั้น ยังมีตัวยึดเข้ากับเมาท์ที่เป็นตัวล็อคติดกับแฮนด์ของจักรยานได้อีกด้วย
ที่สำคัญผู้ใช้เองยังสามารถโหลดแอพฯ ฟรีที่ชื่อว่า BikeBrain จาก App Store มาใช้สำหรับการกำหนดทริป ที่จะแสดงข้อมูลระยะทาง ความเร็วและทำงานร่วมกับระบบ GPS จากใน iPhone ในการตรวจสอบทิศทางในการเดินทางได้ ซึ่งโปรแกรมนี้ออกแบบให้ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้ไม่ยาก ที่สำคัญยังเชื่อมต่อเข้ากับคอมพ์หรือแชร์ข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย ถือว่าเป็นของเล่นที่เพิ่มความคล่องตัวให้กับการใช้ iPhone ได้อย่างน่าสนใจ
ใช้ ได้กับ iPhone 4S, iPhone 4, iPhone 3GS, and iPhone 3G ได้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ยังมีออพชันพิเศษที่เป็นไดนาโมสำหรับใช้ผลิตพลังไฟฟ้าจากการปั่นจักรยาน สำหรับการชาร์จไฟให้กับ iPhone หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางพอร์ต USB ได้อีกด้วย
Facebook ฮุบ “Gowalla” !!!
Facebook ยืนยันได้ว่าจ้างทีมงานสร้าง “Gowalla” ชนิดยกชุด สื่อฟันธงยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมมีแผนปิดบริการระบุพิกัดตำแหน่ง หรือ location-based service ที่เปิดให้ผู้ใช้ “เช็กอิน” ตั้งแต่ปี 2009 แน่นอนเหมือนที่เคยทำกับบริษัทอื่นที่ซื้อมา เชื่อ Facebook จะไม่ควบรวมเทคโนโลยีหรือครอบครองบริการของ Gowalla แต่จะเข้าครอบครองบุคลากรผู้ชำนาญของกอวาลลาเท่านั้น
Gowalla นั้น เป็นบริการโลเกชันเบสเซอร์วิส คู่แข่งรายสำคัญของ Foursquare ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถลงชื่อ “เช็กอิน” ด้วยโทรศัพท์มือถือเพื่อแสดงตัวว่ากำลังยืนอยู่ที่สถานที่ใด ก่อนจะแชร์หรือแบ่งปันตำแหน่งนี้ให้โลกรู้ ทั้งหมดนี้ Gowalla ไม่เปิดเผยข้อมูลว่าบริษัทได้รับข้อเสนอด้านการเงินจาก Facebook เป็นมูลค่าเท่าใด แต่ระบุเพียงว่าทั้งหมดเป็นการก้าวไปข้างหน้าของ Gowalla และบริษัทหวังว่าส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จให้ Gowalla จะไปเติบโตที่ Facebook ต่อไป
Josh Williams ผู้ร่วมก่อตั้ง Gowalla คือผู้โพสต์ข้อความยืนยันความสัมพันธ์กับ Facebook ในบล็อกของบริษัท โดยระบุว่า Gowalla จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสำนัก Facebook ในแคลิฟอร์เนีย จากปัจจุบันที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองออสติน รัฐเทกซัส ขณะที่ Facebook ระบุว่าทั้งวิลเลียมส์และผู้ร่วมก่อตั้ง Gowalla อีกรายอย่าง สกอต เรย์มอนด์ (Scott Raymond) รวมถึงทีมงาน Gowalla รายอื่นจะเข้าร่วมกับ Facebook อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป
สำหรับ Gowalla ข้อมูลจากเว็บไซต์ไดเรกทอรี appappeal.com ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2011 พบว่าเว็บไซต์ของ Gowalla นั้นเป็น Facebook ยอดนิยมอันดับที่ 7,214 ของประเทศไทย (วัดจากค่าเฉลี่ยผู้เข้าชมต่อวันและเพจวิว) โดยผู้ใช้ 2.5% ของ Gowalla มาจากประเทศไทย และคนไทยคือเจ้าของเพจวิว 2.1% ของ Gowalla
นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2009 Gowalla ถูกคาดการณ์ว่ามีผู้ใช้มากกว่า 50,000 คนในเดือนธันวาคมปี 2009 ก่อจะเพิ่มเป็น 90,000 คนในมกราคม 2010 ซึ่งถือว่ายังไล่หลังจากบริการเช็กอินแชร์โลเกชันเจ้าตลาดอย่าง Foursquare ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 150,000 คน และเพิ่มเป็นมากกว่า 325,000 คนในวันที่ 30 มกราคม 2010 ที่ผ่านมา