สมัยก่อน หากคุณผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั้งหลายอาจจะยังพอจำได้ว่า เวลาที่เราต้องการจะจัดการเกี่ยวกับเอกสาร เช่น ถ่ายเอกสาร (Copy), พิมพ์เอกสาร (Print) ส่งแฟกซ์(Fax) หรือสแกนงาน (Scan) เราจะต้องมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละตัวเพื่อจัดการงานเหล่านี้ แต่ปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่า มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำพวก Printer แบบ All In One ที่สามารถจัดการงานเอกสารเหล่านี้ (Copy,Print,Fax,Scan) และที่สำคัญราคาก็ไม่แพง วันนี้ผมเลยอยากจะขอ แนะนำวิธีการเลือกซื้อ Printer แบบ All In One เพื่อเป็นข้อมูลก่อนคุณจะตัดสินใจซื้อครับ
Printer แบบ All In One คืออะไร?
Printer แบบ All In One เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่รวบรวมความสามารถในด้านการจัดการเกี่ยวกับเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายเอกสาร (Copy), พิมพ์เอกสาร (Print) ส่งแฟกซ์(Fax) หรือสแกนงาน (Scan) หรือบางท่านก็เรียกว่าเป็น Printer แบบ Multi-function ครับ ส่วนหมึกที่ใช้ ก็จะมีแบบ Inkjet (หมึกพ่น) หรือ Laserjet (หมึกผง) ครับ
สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนซื้อ Printer แบบ All In One
ด้วยราคาในปัจจุบันที่เริ่มถูกลง และความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ตกว่าควรจะซื้อดีไหม? แล้วต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้างก่อนที่จะซื้อ ผมขอแนะนำเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
1. รูปแบบการใช้งานของเรา ถ้าคุณซื้อเครื่องพิมพ์แบบ All In One มาเพื่อใช้งานในบ้านเล็กๆ น้อยๆ จำนวนการพิมพ์อาจจะไม่สูง การซื้อเครื่องพิมพ์ในราคา 3-4 พันบาท ก็น่าจะเหมาะกับการใช้งานของคุณนะครับ
2. ราคาของเครื่อง โดยปกติแล้วราคาของเครื่องพิมพ์แบบ All In One นั้นจะมีหลายระดับ โดยอาจจะเริ่มตั้งแต่ราคาประมาณ 2-3 พันบาท จนไปถึงราคาระดับหลักหมื่นบาท ซึ่งความแตกต่างของราคานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของคุณสมบัติของเครื่องพิมพ์นัันๆ เช่น มีจำนวนสีหมึกมากขึ้น,รองรับการพิมพ์กระดาษที่ใหญ่ขึ้น (A3), หรือความเร็วในการพิมพ์่หรือทำสำเนา,ความเร็ว,ละเอียดในการสแกน
โดยคุณจะต้องตอบได้ว่า งานที่คุณต้องใช้นั้น เหมาะกับกับเครื่อง เครื่องพิมพ์แบบ All In One รุ่นราคาประมาณไหนครับ
3. คุณสมบัติ ถ้าคุณอยากได้เครื่องพิมพ์แบบ All In One แต่นำมาเพื่อพิมพ์งานอย่างเดียว ไม่ได้ใช้เรื่องของการส่งแฟกซ์ หรือ สแกนงาน การซื้อเครื่องพิมพ์แบบธรรมดา ก็น่าจะดีกว่าทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษาครับ
4. การรับประกัน แม้ว่า การรับประกันของเครื่องพิมพ์แต่ละยี่ห้อจะพอๆ กัน แต่ผมอยากให้นึกถึงในแง่ที่ว่า มีบริการแบบ On-Site (ซ่อมถึงบ้าน,ที่ทำงาน) หรือไม่? , ศูนย์การให้บริการเราสามารถเดินทางได้สะดวกหรือไม่?
5. ยี่ห้อ ต้องยอมรับว่า หลายท่านอาจจะกังวลว่า ยี่ห้อนั้นดีกว่ายี่ห้อนี้หรือเปล่า? ยี่ห้อนี้ใช้งานดีไหม ในส่วนนี้ผมไม่ขอฟันธงนะครับ แต่อยากจะให้คุณลองเอาข้อมูลของคุณไปเปรียบเทียบดู โดยอาจจะใช้ Google ในการช่วยค้นหาข้อมูลได้ครับ
6. ราคาหมึก ส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ผมอยากให้คุณลองตรวจสอบหรือสอบถามกับทางร้านจำหน่ายก่อนนะครับ เพราะเครื่องพิมพ์บางรุ่นราคาเครื่องถูกมาก แต่ราคาหมึกพิมพ์แพงเหลือเกิน เพราะในระยะยาวเราต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของหมึกพิมพ์มากกว่าตัวเครื่องนะครับ