หลังจากที่เมื่อไม่กี่วันนี้มีข่าวหนึ่งซึ่งดังครึกโครมเป็นอย่างมาก เกิดขึ้นในรัฐสภาของประเทศเรา นั่นก็คือ “กรณีภาพหลุดกลางสภา” ซึ่งเป็นภาพผู้หญิงเปลือยท่อนล่าง โผล่ขึ้นมาบนจอโทรทัศน์เครื่องหนึ่งกลางที่ประชุมสภา ทำให้เรื่องนี้มีการถกเถียงกันเป็นอย่างมากว่า เป็นความผิดของฝ่ายไหน ถูกแฮค หรือความผิดที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ควบคุม หรือเป็นความพิเรนของใครสักคนหนึ่งในห้องนั้น วันนี้เราลองมาค่อยๆ ดูสิ่งที่เกิดขึ้น
ก่อนอื่นเราลองมาดูวีดีโอนี้ครับ
มุมมองของผม (ความเห็นส่วนตัว) เกี่ยวกับเรื่อง ภาพหลุดกลางสภา
เมื่อผมดูวีดีโอจบแล้ว มุมมองในแต่ละด้านของผมเป็นดังนี้ครับ
สมมุติฐานว่าถูกแฮคจากภายนอก
อันนี้ผมดูว่า เป็นการโยนความผิดให้กับใครก็ไม่รู้ครับ จับมือใครดมไม่ได้ และถ้าถูกแฮกจริง ผมว่า ทีวีทั้งหมดในห้องน่าจะแสดงรูปน่าอายนี้ทั้งหมดนะครับ เพราะถ้าควบคุมคอมพิวเตอร์จากห้องควบคุมได้ ผมว่าน่าจะเจอหนักกว่านี้ครับ
สมมุติฐานว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ห้องควบคุม
ถ้าใครได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมระบบคอมพิวเตอร์จะรู้ได้ว่า กรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะหากเจ้าหน้าที่เปิดจริง มันจะเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าอภัยเป็นอย่างมาก หากคนที่ทำงานด้านนี้ ผมเชื่อว่า เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเผลอเอารูปที่ไม่สมควรอย่างนี้ออกมาแสดงแน่นอนครับ และต้องอย่างลืมว่า หากเกิดเหตุนี้ คนที่ลำบากก็คือเจ้าหน้าที่นั่นแหละครับ เพราะเขาเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง แล้วเขาจะทำไปเพื่ออะไรกัน ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ (ถ้าเจ้าหน้าที่เป็นคนทำนะครับ) แต่ก็ยังตัดประเด็นนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าเขาเข้าตามเงื่อนไขข้อสาม
สมมุติฐานว่า มีคนใดคนหนึ่งในห้องประชุม ยิงสัญญาณภาพ (อาจจะจากมือถือ) ขึ้นไปยังจอภาพ
สมมุติฐานนี้ผมว่า เป็นไปได้มากที่สุด เพราะด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันมันสามารถทำได้ครับ
ถ้าประมวลจากวีดีโอทีดูนะครับ โทรทัศน์ในสภา เป็นโทรทัศน์แบบที่เรียกว่า Smart TV (สามารถดูอินเทอร์เน้ต แชร์ภาพจากมือถือ, คอมพิวเตอร์ ไปขึ้นบนจอทีวีได้) ได้ถูกตั้งต่าเป็น passive DLNA ซึ่งมันจะมีผลก็คือ หากใครมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยี DLNA และมีแอพที่รองรับเทคโนโลยี DLNA (เช่น Allshare ) อยู่ละก็ จะสามารถส่งภาพจากโทรศัพท์มือถือ ขึ้นไปแสดงบนจอได้เลย โดยไม่ต้องใส่รหัสยืนยันตัวตนก็เชื่อมต่อกับทีวีได้เลยครับ ซึ่งซึ่งไม่ใช่แค่มือถือนะ สามารถสั่งผ่าน Notebook ได้เหมือนกัน ซึ่งจะมีอุปกรณ์ที่รองรับได้แก่ของค่าย Sony, LG, Samsung, HTC
กรณีนี้เป็นไปได้มากที่สุด ส่วนใครเป็นคนทำ ก็ต้องสืบหากันต่อไปนะครับ