สรุปข่าวไอทีที่น่าสนใจประจำวันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2555 ครับ
Acer เข็น Tablet ใหม่จอใหญ่ 10″ ราคาไม่ถึงหมื่น !!!
รายงานข่าวล่าสุด เอเซอร์ (Acer) ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Iconia Tab A200 “Tablet” สายพันธุ์ Android รุ่นใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะนำมาแสดงในงาน CES 2012 เท่านั้น แต่จะเริ่มวางตลาดในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มกราคม ศกนี้อีกด้วย โดยสนนราคาเริ่มต้น (สตอเรจ 8GB) ที่ 329.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 9,900 บาท (สตอเรจ 16GB ราคา 349 เหรียญฯ หรือประมาณ 11,000 บาท)
Acer Iconia Tab A200 จะทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 3.2 Honeycomb และใช้โพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ Tegra 2 ความเร็ว 1GHz โดยจุดเด่นคือ หน้าจอแสดงผลของ A200 จะใหญ่ถึง 10 นิ้ว และมีความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ในขณะเดียวกันทางบริษัทสัญญาว่า มันสามารถอัพเกรด OS เป็น Ice Cream Sandwich ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ อย่างแน่นอน สำหรับขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 10.2 x 6.9 x 0.48 นิ้ว หนัก 697 กรัม A200 มาพร้อมกับพอร์ต USB ที่สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด และเมาส์ ตลอดจนฮาร์ดดิสก์ภายนอกได้ นอกจากนี้ยังมีพอร์ต microSD และ microUSB อีกด้วย ในขณะที่การเชื่อมต่อไร้สายก็จะมี Wi-Fi b/g/n และ Bluetooth 2.1 แต่ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่า จะมีออปชัน 3G ให้ด้วย หรือไม่?
ในส่วนของแบตเตอรี่ของ Acer Iconia Tab A200 จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง และมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แต่จะไม่มีกล้องหลังแบบแท็บเล็ตทั่วไป ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่ช่วยลดต้นทุนจนทำให้ A200 สามารถเป็นแท็บเล็ตจอใหญ่มีราคาต่ำหมื่นได้
ในส่วนของอินเตอร์เฟซ Acer ยังคงใช้ “Acer Ring” ครอบไปบนระบบปฏิบัติการ Android 3.2 Honeycomb ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอพฯ ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนการใช้สตรีมมิ่งแอพบนเทคโนโลยี Cliar.fi DLNA ทั้งหมดนี้ ถูกรวมอยู่ใน Acer Iconia Tab A200 เชื่อว่าจากสเป็กและราคาของมันน่าจะเป็นที่ถูกใจคุณผู้อ่านหลายๆ ท่านอย่างแน่นอน
เตือนภัย หนอนแอบฉกพาสเวิร์ดผู้ใช้ Facebook 45K ราย !!!
ถึงเวลาที่คุณผู้อ่านอาจต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน (password) ของบัญขีผู้ใช้ “เฟซบุ๊ค” (facebook) อีกแล้ว เนื่องจากมีรายงานข่าวล่าสุดว่า หนอนไวรัสชื่อ Ramnit ได้เข้าโจมตีเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถฉกพาสเวิร์ดของผู้ใช้ไปได้มากกว่า 45,000 ราย ซึ่งผูัใช้กลุ่มแรกที่ตกเป็นเหยื่อการบุกรุกครั้งนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในอังกฤษ และฝรั่งเศษ
ตามรายงานข่าวอ้างว่า Ramnit หนอนวายร้ายตัวนี้มีการพบมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2010 แล้ว โดยมันได้มีการอัพเดทความร้ายกาจเรื่อยมาตั้งแต่นั้น ซึ่งหลังจากการเข้าโจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากในเดือนกรกฎาคม 2011 เป้าหมายของมันล่าสุดก็คือ เฟซบุ๊ค (Facebook) และแล้วก็ถึงเวลาโจมตีของมัลแวร์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ตามที่ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านได้เผยถึงแนวโน้มดังกล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ สำหรับการทำงานของ Ramnit จะเริ่มต้นด้วยการหลอกล่อให้เหยื่อคลิกบนลิงค์ที่โพสต์โดยผู้ใช้ที่อ้างว่าเป็นเพื่อน โดยที่เพื่อนของคุณไม่ได้รู้เรื่องการโพสต์ลิงค์ดังกล่าวแต่อย่างใด และเมื่อคุณเผลอคลิกบนลิงค์ที่ว่านี้ คุณก็จะตกเป็นผู้แพร่กระจายหนอนไวรัสตัวนี้ทันที
เรื่องของมันยังไม่จบเท่านี้ เพราะเบื้องหลังการทำงานของหนอน Ramnit มันจะเฝ้าดักขโมยพาสเวิร์ดต่างๆ ที่รวบรวมได้จากการคลิกลิงค์ เพื่อเข้าไปใช้ Gmail, VPN บน SSL ขององค์กร รวมถึง Outlook Web Access (OWA) และบัญชีผู้ใช้ Twitter นอกเหนือจากล็อกอินผู้ใช้ Facebook เพื่อความปลอดภัยของคุณผู้อ่านคำแนะนำก็คือ ควรเปลี่ยนพาสเวิร์ดของคุณจะดีกว่า เพราะไม่ว่าคุณจะโดนแฮคบัญชีไปแล้วเนื่องจากการคลิกลิงค์อันตรายที่ว่านี้แล้ว หรือไม่ก็ตาม การเปลี่ยนพาสเวิร์ดจะทำให้แฮคเกอร์ที่ได้บัญชีผู้ใช้ของคุณไปจะไม่สามารถเข้าใช้ Facebook ของคุณได้นั่นเอง ซึ่งรวมถึงความปลอดภัยในล็อกอินของบริการอื่นๆ ด้วย
Apple แย้ม iPad 3 ติดกล้องหน้า HD สำหรับ Facetime
รายงานข่าวล่าสุดสำหรับ iPad 3 ก็เริ่มมีกระแสออกมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ Apple เริ่มลดราคา iPad 2 ประกอบการแข่งขันในตลาด “Tablet” ซึ่งคู่แข่งที่มีทั้งในรูปของเครื่องอ่านอีบุ๊คที่เป็น Tablet อย่าง Kindle Fire และแท็บเล็ต Android อีกหลากหลายรุ่นที่จะเปิดตัวในตลาดปีนี้ โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ iLounge ระบุว่า iPad 3 จะมีการอัพเกรดคุณสมบัติแค่บางส่วนเท่านั้น – -”
โดยดีไซน์ส่วนใหญ่จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งคุณสมบัติที่อัพเกรดค่อนข้างชัดเจนใน iPad 3 นอกเหนือจากหน้าจอสัมผัสที่ละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ กล้องหน้า และกล้องหลัง โดยกล้องหน้าจะมีการอัพเกรดให้มีความละเอียดระดับ HD ในขณะทีกล้องหลังจะเทียบได้กับ iPhone 4S กล่าวโดยสรุปเป็นข้อๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ผู้บริโภคจะพบใน iPad 3 มีดังนี้
1. iPad 3 จะมีการอัพเกรดกล้องเป็นหลัก กล้องหน้าจะเป็น HD เพื่อความคมชัดสำหรับการใช้เล่น Facetime ในขณะที่กล้องหลังคุณภาพ และความละเอียดจะเทียบเท่ากับ iPhone 4S หรืออาจจะสูงกว่าก็ได้
2. เนื่องจาก iPad 3 จะมีการเพิ่มชิ้นส่วนการทำงานใหม่เข้าไปด้วย ซึ่งทำให้มันอาจมีความหนาเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่เกิน 1 มม.
3. ส่วนขอบโค้งมนของ iPad 3 จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เนื่องจากต้องปรับให้เข้ากับความหนาที่เพิ่มขึ้น แต่โดยรวมจะดูไม่แตกต่างจาก iPad 2 สักเท่าไร จนน่าจะเรียกมันว่า iPad 2 Pro หรือ iPad 2S มากกว่า
แหล่งข่าวยังอ้างอีกด้วยว่า หลังจาก iPad 3 เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2012 ราคาของ iPad 2 จะลดลงมาอยู่ที่ 399 เหรียญฯ หรือประมาณ 12,000 บาท อย่างไรก็ตาม คุณผู้อ่านที่สนใจ iPad 3 คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวกันต่อไป เพราะเชื่่อว่าทาง Apple น่าจะยังมีไม้เด็ดซ่อนอยู่ใน iPad รุ่นใหม่ โดยเฉพาะหลังงาน CES 2012 คงต้องมีการปล่อยข่าวออกมาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน