วันนี้ขอเล่าเรื่องแบบง่ายๆ สบายๆ นะครับ ผมเชื่อว่า หลายคนน่าจะรู้จักเจ้า Tablet ของ Apple ตัวนี้ดี (ก็ขอให้ท่านข้ามบทความนี้ไปนะครับ) ส่วนหลายท่านผมก็เชื่อว่า อาจจะเคยได้ยิน และอาจจะสงสัยว่า iPad มันคืออะไร? ใช้ทำอะไร? ผมเลยอยากจะเล่าเรื่องของ iPad แบบง่ายๆ มาให้ฟังกันนะครับ
iPad คืออะไร?
ถ้าตอบแบบง่ายๆ ก็คือ iPad ก็คือ Tablet ชนิดหนึ่ง ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Apple เจ้าของเดียวกันกับ iPhone และ iPod ครับ โดย iPad เป็นแทบเล็ตที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว มีความบางพอๆ กับสมุดเล่มเล็กๆ สักเล่มหนึ่ง สามารถพกพาไปไหนมาได้ง่าย และสามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ท่องเว็บ รวมทั้งใช้งานโปรแกรมที่หลากหลายที่เรียกว่า “แอพ” (App) ครับ
ซึ่งเมื่อก่อนหากพูดถึงแทบเล็ต หลายคนจะนึกถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ปากกา (Stylus) จิ้มๆ บนหน้าจอ แต่เนื่องจากทางผู้ผลิต iPad ได้มองว่า “การใช้นิ้วของเราใช้งานสัมผัสหน้าจอจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่า?” จึงทำให้เกิดโทรศัพท์มือถือ iPhone และพัฒนามาเป็นแทบเล็ต iPad ครับ
หากหลายคนยังนึกภาพไม่ออก ลองดูวีดีโอข้างล่างนี้ดูนะครับ 🙂
iPad เอาไว้ทำอะไร?
iPad ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลายครับ มันเหมือนกับเป็น Notebook ขนาดเล็กที่ไม่มีคีย์บอร์ด (ใช้การสัมผัสคีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอครับ) ทำให้มันมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า notebook มากครับ และคุณสมบัติที่มันสามารถทำได้ก็คือ
- ดูหนังหรือวีดีโอต่างๆ
- ถ่ายรูป
- ฟังเพลง
- ท่องอินเทอร์เน็ต
- จัดการงานเอกสารต่างๆ ที่ไม่ซับซ้อนมากนัก
- เช็คอีเมล์
- เล่นเกมส์ (สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จาก App Store)
- ใช้งานได้หลากหลายผ่านทางโปรแกรมต่างๆ ที่เรียกว่า App
- ฯลฯ
iPad มีรุ่นไหนบ้าง? ราคาเป็นอย่างไร?
ในปัจจุบัน iPad ได้ถูกแบ่งออกเป็นสองรุ่นใหญ่ๆ คือแบบ WiFi และ แบบ WiFi+3G (สามารถใส่ซิมเพื่อท่องอินเทอร์เน็ตผ่านระบบซิม) ซึ่งแต่ละแบบก็จะแบบตามขนาดความจุ (16GB,32GB และ 64GB ครับ) โดยตอนนี้มีทั้ง iPad1 (ตอนี้อาจจะหาซื้อมือ1 ยากนิดนึง) และ iPad2 ครับโดยแต่ละรุ่นเป็นดังนี้ครับ
- iPad 2 WiFi 16GB ราคา 15,900 บาท
- iPad 2 WiFi 32GB ราคา 18,900 บาท
- iPad 2 WiFi 64GB ราคา 21,900 บาท
- iPad 2 WiFi+3G 16GB ราคา 19,900 บาท
- iPad 2 WiFi+3G 32GB ราคา 21,900 บาท
- iPad 2 WiFi+3G 64GB ราคา 25,900 บาท
ทำไม iPad จึงเป็นนิยม?
หลายคนอาจจะเห็นคนส่วนใหญ่เริ่มถือ iPad แทนโน้ตบุ้คหรือเน็ตบุ้คมากขึ้น ก็เนื่องจากความเบา 610 กรัม (ครึ่งโลนิดๆ เอง) ซึ่งโน้ตบุ้คทั่วไปน้ำหนักจะประมาณ 2-3 กิโลกรัม และเน็ตบุ้คจะหนักประมาณ 1.3 กิโลกรัมขึ้นไป จะเห็นได้ว่าน้ำหนักเบากว่าเน็ตบุ้คกว่าครึ่งๆ ขนาดก็เล็กว่ากระดาษ A4 ทำให้พกพาใส่กระเป๋าไปได้โดยง่าย และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง และสามารถตอบสนองการใช้งานพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด ทำให้คนหลายคนเลือกที่จะพกพา iPad มากกว่าโน้ตบุ้คหรือเน็ตบุ้คครับ
น่าซื้อ iPad ไหม?
ถ้าคุณไม่ติดกับเรื่องราคาค่าตัวของมัน ผมมองว่า iPad ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากตัวหนึ่งนะครับ แม้ว่าตอนนี้ว่าจะมีข่าวเรื่องของ iPad 3 ซึ่งยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน ถ้าคุณต้องการแทบเล็ตดีๆ สักเครื่อง ขอแนะนำ iPad 2 นะครับ