ในยุคที่โทรศัพท์มือถือไม่ได้มีไว้เพียงแค่ โทรเข้าโทรออก หรือรับ-ส่ง SMS แค่นั้น แต่สามารถทำอะไรได้หลากหลายอย่าง รวมทั้งการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อกับสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้จะเห็นได้ว่ามีแพคเกจสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีทั้งแบบคิดตามปริมาณการใช้งาน และเวลาการใช้งาน ทำให้หลายคนที่ชอบแชท ชอบเม้นท์ ชอบโพสต์ บนมือถือมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เดือนๆ หนึ่งหลายร้อยบาท วันนี้ผมเลยแนะนำ วิธีที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือให้ถูกลง ซึ่งผมเองก็ใช้วิธีนี้อยู่ครับ
วิธีการประหยัดค่าอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ
1. อย่างแรกที่คุณต้องนึกถึงก่อนว่า “จริงๆ แล้วคุณมักนิยมใช้งานโปรแกรมหรือ App ไหนบนมือถือ?” เช่น Chat,Facebook,Whatsapp,Twitter หรือโปรแกรมอื่นๆ เพราะคำตอบมันจะเป็นแนวทางในการเลือกแพคเกจการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ
- ถ้าคุณชอบ Whatsapp,Twitter หรือ App ที่ใช้งานผ่านตัวอักษรเท่านั้น ผมขอแนะนำให้คุณใช้แพคเกจแบบคิดตามปริมาณการใช้งานครับ เช่น 75 MB ราคา 99 บาท/เดือน เพราะการรับส่งข้อมูลด้วยตัวอักษรจะใช้ปริมาณการใช้งานไม่มากครับ ต่อให้คุณเปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชั่วโมงก็ยังได้เลยครับ
- ถ้าคุณชอบอัพโหลดรูป หรือการรับส่งไฟล์ภาพ ไฟล์เสียง หรือการรับส่งข้อมูลที่มีปริมาณมากๆ การใช้แพคเกจแบบคิดตามเวลาการใช้งานก็เหมาะกว่าคุณครับ
2. หากคุณใช้งานอื่นเช่น ท่องเว็บต่างๆ หากโปรแกรมท่องเว็บบนมือถือของคุณมีเมนู “ปิดการแสดงภาพ” หรือ “ลดคุณภาพของภาพ” ผมขอแนะนำให้คุณทำการปรับตั้งค่าในส่วนนี้ด้วยครับ เพราะรูปภาพจะใช้ปริมาณการรับส่งข้อมูลเป็นจำนวนมาก และทำให้หน้าเว็บโหลดช้าด้วยครับ
3. หากคุณชอบถ่ายรูป,หรืออัพโหลดรูปขึ้นตามเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ อย่าลืมปรับขนาดของรูปถ่ายก่อนถ่ายรูปนะครับ ซึ่งขนาดที่ผมแนะนำน่าจะเป็นขนาดไม่เกิน 800 x 600 พิกเซลครับ เพราะจะอัพโหลดได้เร็ว และภาพไม่เล็กเกินไปครับ (แถมไม่กินปริมาณการใช้งานมาด้วยครับ)
4. อย่าลืมทำการเปรียบเทียบแพคเกจที่ใช้งานอยู่นะครับ หากมีแพคเกจแบบ “ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน” ให้ดูว่า ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับแพคเกจที่คุณจ่ายไปหรือไม่? เช่นผมใช้แพคเกจแบบ 70 ชั่วโมง ราคา 199 บาท/เดือน แต่ถ้าเป็นแบบไม่จำกัดการใช้งานจะอยู่ที่ 399 บาท/เดือน แล้วผมใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือวันนึง 3-4 ชั่วโมง การเลือกแพคเกจแบไม่จำกัดการใช้งานน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผมครับ
5.คอยเช็ดดูปริมาณการใช้งานคงเหลือหรือชั่วโมงการใช้งานคงเหลือเป็นระยะนะครับ เพราะถ้าหมดแพคเกจแล้ว เราใช้เกินแพคเกจ ค่าใช้จ่ายจะสูงพอสมควรเลยครับ
ลองดูนะครับ ผมเชื่อว่า มันจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ 🙂