ในยุคที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์กันอย่างแพร่หลาย สิ่งหนึ่งที่คอยตามกวนใจผู้ใช้งาน Windows อย่างเราๆ ท่านๆ เป็นอย่างมากก็คือ “ไวรัส” เนื่องจากคอมพิวเตอร์ของเรามีโอกาสที่จะเจอไวรัสอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ก็คือ “โปรแกรมแอนตี้ไวรัส” ที่จะคอยช่วยตรวจจับ,ลบ,ทำลายไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดต่างๆ ที่จะมีรูปแบบการโจมตีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน บางท่านอาจจะสงสัยว่า ถ้าเราลงโปรแกรมแอนตี้ไวรัสไปสองตัวพร้อมกันมันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันไวรัสได้ดีขึ้นหรือไม่? วันนี้ผมจะมีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
โปรแกรมแอนตี้ไวรัสในท้องตลาดปัจจุบันจะมีหลากหลายเจ้ามาก จนบางทีเราก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน บางคนจึงเลือกเอาตัวเจ๋งๆ สองตัวลงพร้อมกันในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวไปเลยดีกว่า
ซึ่งผมอยากจะบอกว่า โปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวหนึ่งนั้น กินทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณลองคิดดูว่า โปรแกรมจะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อคอยทำการตรวจจับ,ป้องกันไวรัสตลอดเวลาที่คุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และใช้งาน สังเกตได้ง่ายๆ ว่า ถ้าเครื่องของคุณลง Windows ใหม่ๆ การทำงานจะลื่นไหลมาก แต่พอคุณลองโปรแกรมแอนตี้ไวรัสปุ๊ป เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจะหน่วงลงนิดหนึ่งทันที เพราะเครื่องจะต้องแบ่งทรัพยากรส่วนหนึ่งไปให้กับระบบการทำงานของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสครับ
ฉันใดก็ฉันนั้น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสโปรแกรมเดียวยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง ยิ่งคุณใส่เข้าไปทีเดียว 2 ตัว คุณลองคิดดูสิครับว่า มันจะอืดขนาดไหน ยิ่งต่างฝ่ายต่างยิ่งแย่งกันทำงาน แย่งกันดักจับไวรัส แย่งกันอัพเดทฐานข้อมูลแอนตี้ไวรัส ยิ่งทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณแฮ้งค์หรือเอ๋อเอาได้ง่าย
ถ้าอย่างนั้นทางใดที่เหมาะที่สุดล่ะ?
ผมขอแนะนำว่า ให้คุณเลือกโปรแกรมแอนตี้ไวรัสดีๆ สักตัวหนึ่งเป็น (ถ้าแบบจ่ายเงินได้ก็ยิ่งดี เพราะคุณสมบัติการป้องกันจะดีขึ้น มากขึ้น หลากหลายขึ้นครับ) ถ้าเลือกของฟรี ก็ต้องลองใช้ดูครับ ว่าอันไหนไม่หนักเครื่องเรามากจนเกินไป
อย่างไรก็ดี ถ้าเครื่องคุณมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัส 2 ตัว ผมขอให้ลบทิ้งไปสักอันดีที่สุดครับ 🙂